ประชาสัมพันธ์วังสามหมอ


ประวัติอำเภอวังสามหมอ
 วังสามหมอหนองน้ำใสสะอาดท่ามกลางป่าทึบและขุนเขา มีตำนานเก่าแก่สืบต่อกันมาว่า 

นานมาแล้ว เจ้าเมืองท่าขอนยางมีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ "คำบาง" เธอเลี้ยงลูกจระเข้ไว้เป็นเพื่อกันมาตั้งแต่เยาว์วัย ตั้งชื่อให้จระเข้แสนรักว่า "บักเฮ้า" 

วันเวลาผ่านไป คำบางเติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวรูปโฉมงดงามมาก บักเฮ้าก็ตับใหญ่เท่าประทุน(หมายถึง หลังคารูปโค้งคุ่มตามรูปเกวียน รถ หรือเรือ)เกวียน บักเฮ้ามีนิสัยเชื่อง รักนายสาวของมันมาก ให้ขี่หลังพาท่องเที่ยวไปตามลำน้ำชีอยู่เสมอๆ 

วันหนึ่งในฤดูน้ำหลาก ขณะที่บักเฮ้าว่ายน้ำพาคำบางออกท่องเที่ยวเหมือนเช่นเคย บังเอิญจระเข้ป่าดุร้ายต่างถิ่นสองตัวล่องลงมาหากินแถบลำน้ำชี เห็นคำบางก็ตรงรี่เข้าไป หมายจะจับกิน 

บักเฮ้าเข้าต่อสู้ขัดขวางจระเข้ป่าเพื่อปกป้องคำบางจนสุดกำลัง แต่ไม่อาจต้านทานจระเข้ป่าหิวโซที่โถมเข้าทำร้ายอย่างบ้าคลั่งได้ บักเฮ้าจึงตัดสินใจคาบคำบางโผทะยานหนีเข้าฝั่ง 

เมื่อบักเฮ้าวางคำบางลงริมฝั่ง เธอกลับนอนแน่นิ่งสิ้นลมหายใจเสียแล้ว บักเฮ้าโศกเศร้ามากที่เจตนาดีของตนกลับทำให้นายสาวที่รักยิ่งต้องตาย 

บักเฮ้าทั้งเสียใจทั้งกลัวเจ้าเมืองจะลงโทษเพราะความผิดครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก เกินกว่าที่จะอธิบายให้มนุษย์เข้าใจได้ บักเฮ้าจึงจำใจกลืนคำบางลงท้องไปเพื่อปกปิดความผิด 

จากนั้นบักเฮ้าก็หนีซมวานขึ้นไปทางตอนเหนือของลำน้ำปาว ลำน้ำช่วงใดคอดแคบก็หนีขึ้นบกตะลุยเข้าป่าเรื่อยไป จนมาถึงหนองน้ำกว้างใหญ่เป็นห้วงลึกแห่งหนึ่ง จึงกบดานอยู่ก้นหนองน้ำนั้น 

เมื่อเจ้าเมืองท่าขอนยางรู้ว่าบักเฮ้ากลืนกินคำบางแล้วหลบหนีไปก็โกรธแค้นมาก ประกาศหาหมอปราบจระเข้มาไล่ล่าบักเฮ้าจระเข้อกตัญญูให้จงได้ 

ขณะนั้น หมอปราบจระเข้ผู้มีอาคมเก่งกล้าสามคนขออาสาเป็นผู้นำคณะออกตามล่าบักเฮ้า ระหว่างทางพบรอยหลุบ(หมายถึง จมลงในดิน)ตีนจระเข้ขนาดใหญ่ จึงตามรอยไปจนกระทั่งพบหนองน้ำที่บักเฮ้าซ่อนตัวอยู่ 

หมอปราบจระเข้คนแรกนั่งแพไม้ไผ่ไปกลางน้ำพร้อมกับร่ายมนต์เรียกจระเข้ ฉับพลันบักเฮ้าก็โผขึ้นตากเบื้องล่าง สะบัดงับแพจนเอียงล่ม แล้วงาบหมอปราบจระเข้เข้าปากทันที หมอปราบจระเข้คนที่สองก็เสียทีเป็นเฟยื่อของบักเฮ้าด้วยวิธีเดียวกันนี้ 

หมอปราบจระเข้คนที่สามเป็นหญิง แต่เฉลียวฉลาดเก่งกล้าสามารถ เธอเตรียมเชือกหนังยาว 5 เส้น(ชื่อมาตราวัด 1 เส้น เท่ากับ 20 วา เท่ากัน 2 เมตร ดังนั้น 5 เส้น เท่ากับ 200 เมตร) ทำจากหนังxxx(ช่วยไม่ได้ ก็มันคำหยาบนี่นา- -")20 ตัว เชือกด้านหนึ่งมัดพันรอบต้นประดู่ใหญ่ริมฝั่ง ส่วนอีกด้านผูกติดกับฉมวกที่มีปลายแหลมทั้งสองด้าน 

จากนั้นต่อแพขนาดเล็กที่ทำด้วยหยวกกล้วย เอาฉมวกที่มัดเชือกหนังแทงทะลุแพไปในน้ำครึ่งเล่ม เสร็จแล้วก็ร่ายมนต์เรียกจระเข้ขึ้นมา 

เมื่อบักเฮ้าถูกมนต์เรียกก็โผขึ้นมาหมายจะคว่ำแพเหมือนเช่นเคย แต่ทันทีที่มันอ้าปากใหญ่งับแพ ฉมวกแหลมก็เสียบทะลุปากบนและล่าง มันเจ็บปวดดิ้นทุรนทุรายน้ำกระจายแตกพล่าน 

ผู้คนช้วยกันดึงเชือกลากจระเข้ขึ้นฝั่ง บักเฮ้ายื้อยุดสุดกำลัง แต่เมื่อเห็นเจ้าเมืองท่าขอนยางบนฝั่งก็เศร้าโศกสำนึกผิดที่ตนก่อขึ้น ยอมให้ลากดึงร่างมหึมาขึ้นเกยฝั่งโดยดี เจ้าเมืองท่าขอนยางสั่งให้ฆ่าบักเฮ้าและผ่าท้องนำกระดูกธิดาคำบางและศพหมอปราบจระเข้ทั้งสองไปบำเพ็ญกุศล 

ภายหลังเจ้าเมืองท่าขอนยางและชาวบ้านรู้ความจริงว่าที่บักเฮ้าทำไปเพราะตั้งใจปกป้องคำบาง จึงนำกระดูกขากรรไกรของบักเฮ้ามาทำเป็นบันไดขึ้นธรรมาสน์(อ่านว่า ทำ-มาด หมายถึงที่สำหรับพระภิกษุสามเณรนั่งแสดงธรรม) เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจและไถ่บาปที่ได้ล่วงเกินกระทำต่อกันไว้ 

บริเวณที่พบรอยหลุบตีนจระเข้ ภายหลังมีคนมาตั้งบ้านเรือนจึงเรียกว่า "บ้านหลุบตีนแข่" ต่อมาเหลือเพียง "บ้านหลุบ" หนองน้ำที่พบบักเฮ้าได้ถูกเรียกขานว่า "วังสามหมอ" ทั้งที่เนื่องจากต้องใช้หมอปราบจระเข้ถึงสามคนจึงจะปราบได้สำเร็จ ... จบ. 


หวังทุกคนจะชอบกันน๊าา><

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สวนสาธารณะหนองแวงโคก

โรงพยาบาลวังสามหมอ